ประวัติคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo)

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro)
ส่วนสูง: 185cm
น้ำหนัก: 80kg
สโมสรปัจจุบัน: เรอัล มาดริด
หมายเลขเสื้อ: 7
ตำเเหน่งเตะบอล: กองหน้า
เวลาย้ายเข้า: 2009-7
ค่าย้ายเข้า: € 94,000,000
สโมสรที่แล้ว: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สโมสรก่อน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,สปอร์ติ้ง ลิสบอน

พ.ศ.นี้คงจะไม่มีนักเตะคนใดที่ได้รับการพูดถึงมากกว่าไป คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของเรอัล มาดริด ได้อีกแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกแล้ว เขายังออกสตาร์ทในลา ลีก้า ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย

ช่วงต้นอาชีพการค้าแข้ง

โรนัลโด้ เริ่มเตะฟุตบอลครั้งแรกตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ก่อนที่จะลงเล่นในทีมสมัครเล่นด้วยวัยเพียง 8 ขวบ กับทีมอันดอรินญ่า และในปี 1995 ชื่อเสียงของเจ้าหนูรอนนี่วัย 10 ปี ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในดินแดนฝอยทอง ส่งผลให้สองทีมชั้นนำในประเทศบ้านเกิดอย่าง มาริติโม่ และ นาซิอองนาล ต่างให้ความสนใจที่จะจับนักเตะอนาคตไกลรายนี้เซ็นสัญญา

หลังจากที่ลงเล่นให้กับ นาซิอองนาล ในทีมระดับเยาวชนแล้ว โรนัลโด้ ก็ย้ายมาร่วมทีมใหญ่กว่าอย่าง สปอร์ติง ลิสบอน แบบไม่เปิดเผยค่าตัว ก่อนจะกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมตั้งแต่อายุยังน้อย และฝีเท้าที่เก่งเกินวัย 16 ปีของเขา ก็ไปเตะตา เชราร์ อุลลิเย่ร์ อดีตผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล เข้าอย่างจัง แต่ยักษ์ใหญ่จากเมอร์ซี่ย์ไซด์ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ต่อเนื่องจากมองว่า โรนัลโด้ ยังเด็กเกินไป ขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปิ๊งในฝีเท้าของ โรนัลโด้ ทันทีที่ได้เห็นปีกจรวดรายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในเกมนัดกระชับมิตรช่วงปรีซีซั่นระหว่าง สปอร์ติง ลิสบอน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเหยี่ยวลิสบอนเป็นฝ่ายชนะไป 3-1  และนั่นก็ทำให้กุนซือของปีศาจแดงต้องอ้อนวอนให้บอร์ดบริหารอนุมัติเงินก้อนโตเพื่อนักเตะวัยเพียง 18 ปี

ตอนค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  
นับตั้งแต่ย้ายจากสปอร์ติง ลิสบอน ทีมในลีกบ้านเกิดมาร่วมถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนสิงหาคม 2003 ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ โรนัลโด้ ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีเทคนิคการเล่นแพรวพราวมากที่สุดในเกาะอังกฤษทันที ไม่มีใครเถียงว่าความเร็วและลีลาการสับขาหลอกของเขาสามารถสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับบรรดากองหลังทีมคู่แข่ง แต่ในบางครั้งมันก็รวมถึงเพื่อนร่วมทีม "ปีศาจแดง" ด้วย โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ โรนัลโด้ มักจะโดนจวกว่าเป็นพวกชอบโชว์มากจนทำให้เกมเสียไปบ่อยครั้งก่อนจะเริ่มเล่นเป็นทีมได้ดีขึ้นในเวลาต่อมา

โรนัลโด้ ใช้เวลาไม่นานนักในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ชิพ และผลงาน 8 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ซึ่งรวมถึงประตูแรกในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ กับ มิลล์วอลล์ ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Sir Matt Busby Player of the Year) ประจำฤดูกาล 2003/04
ฤดูกาลที่ 2 ของโรนัลโด้ ในยูนิฟอร์มปีศาจแดงไม่ดีเท่ากับปีแรก หลังจากที่จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 50 นัด แต่ทำได้แค่ 9 ประตู ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพาทีมชาติ

โปรตุเกสผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2004 ก่อนพ่ายให้กับ กรีซ ไปอย่างพลิกความคาดหมาย
อย่างไรก็ดี ในฤดูกาล 2005-06 โรนัลโด้ ก็เรียกฟอร์มเก่งของตัวเองมาได้อีกครั้งในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ซึ่งรวมถึงการพังประตูสุดสวยแห่งฤดูกาลในเกมที่พบกับปอร์ทสมัธ และได้ยิงในเกมรอบชิงชนะเลิศคาร์ลิง คัพด้วย ก่อนจะจบซีซั่นด้วยการทำ 12 ประตู จากการลงสนาม 47 นัด

ปีกจอมสับชาวโปรตุกีส คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟิฟโปร (FIFPro Special Young Player of the Year 2005) ซึ่งเป็นรางวัลเดียวที่ให้แฟนๆ เป็นผู้ลงคะแนนโหวตตัดสิน และในปีเดียวกันเขาก็ได้อันดับที่ 20 ในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าด้วย กระนั้นก็ตาม โรนัลโด้ ก็ต้องเผชิญช่วงเวลาอันยากลำบากในเส้นทางลูกหนังเช่นกัน หลังจากที่เขาถูกแฟนบอลอังกฤษรุมโห่ไล่หลังจากที่มีส่วนทำให้ เวย์น รูนี่ย์ เพื่อนร่วมทีมปีศาจแดง ต้องโดนใบแดงในเกมที่ทีมสิงโตคำราม พบกับ โปรตุเกส ในศึกฟุตบอลโลก 2006
  
ทว่า นักเตะวัย 23 ปี ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง เขาผ่านความกดดันต่างๆ มาได้อย่างน่าชื่นชม และดูเหมือนว่าเสียงโห่ต่างๆ จะยิ่งทำให้ โรนัลโด้ เค้นฟอร์มที่สุดยอดออกมากลบเสียงวิจารณ์ไปได้เกือบหมด และความคงเส้นคงวาของเขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ปีศาจแดงคว้าทริปเปิลแชมป์ได้ด้วย และนั่นก็คงเป็นเหตุผลว่าทำไม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงชนะใจกรรมการและคว้า 2 รางวัลใหญ่ของพีเอฟเอไปครองแบบไม่มีพลิกโผ โรนัลโด้ ทำแฮตทริกแรกให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในเกมที่ถล่ม นิวคาสเซิ่ล 6-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2008 จากนั้น ก็ยังทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกหลังกดไป 31 ประตู

ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของยุโรปประจำฤดูกาล 2007/08 ไปครองอย่างไร้คู่แข่งในฐานะดาวซัลโวสูงสุด โดยเขาทำประตูรวมทั้งหมด 42 ประตูในทุกรายการให้กับปีศาจแดง และจากผลงานที่สุดยอดดังกล่าวทำให้ปีกชาวโปรตุกีส กลายเป็นนักเตะคนแรกที่เหมา 2 รางวัลของพีเอฟเอในฤดูกาลเดียวกันต่อจากแอนดี้ เกรย์ ที่เคยทำได้เมื่อปี 1977 และคว้าอันดับ 2 ของรางวัลบัลลง ดอร์ ต่อจาก กาก้า ซึ่งตอนนั้นยังค้าแข้งกับเอซี มิลาน
 
ช่วงต้นฤดูกาล 2008-2009 โรนัลโด้ ออกมาเผยว่าเขาสนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งกับเรอัล มาดริด ซึ่งทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยื่นคำร้องไปที่ฟีฟ่าเพื่อให้จัดการกับ "ราชันชุดขาว" โทษฐานที่ทำผิดกฎด้วยการแอบเจรจากับนักเตะที่ยังติดสัญญากับสโมสรอยู่ แต่ทางฟีฟ่าก็ไม่ได้ดำเนินมาตรการใดๆ อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมก็หมดไปเมื่อ โรนัลโด้ ออกมายืนยันว่าเขาจะอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไปอย่างน้อยอีก 1 ฤดูกาล แต่กว่าจะได้ลงเล่นเป็นนัดแรกก็ต้องรอจนถึงวันที่ 17 ก.ย. 2008 เนื่องจากต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดที่ข้อเท้าในช่วงต้นซีซั่น

ในเกมถล่ม สโต๊ค 5-0 เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2008 โรนัลโด้ สร้างสถิติยิงประตูที่ 100 และ 101 ในทุกถ้วยให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งสองประตูมาจากลูกฟรีคิก ปีกจอมสับ กลายเป็นนักเตะจากค่ายปีศาจแดง คนที่ 2 ที่คว้ารางวัลบัลลง ดอร์ มาครองต่อจาก จอร์จ เบสต์ ที่ทำได้เมื่อปี 1968 โดย โรนัลโด้ ได้รับเสียงโหวตอย่างท่วมท้น และเอาชนะ ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าบาร์เซโลน่า ไป 165 คะแนน

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2009 แฟนบอลทั่วโลกก็ต้องตกตะลึงกับภาพข่าวที่รถเฟอร์รารี่ 599 ของเขาพังยับเยินระหว่างการชนเข้ากับอุโมงค์บนถนนใกล้ๆ กับสนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ ทว่า โรนัลโด้ กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แม้แต่น้อย และยังสามารถกลับไปซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมในวันรุ่งขึ้นได้อย่างไม่มีปัญหาด้วย
ถัดมาอีก 4 วัน โรนัลโด้ ก็สร้างชื่อได้อีกครั้งเมื่อกลายเป็นนักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า และเป็นคนแรกของทีมชาติโปรตุเกสต่อจาก หลุยส์ ฟิโก้ ที่ทำได้ในปี 2001
 
ปีกตัวเก่ง จบฤดูกาลด้วยการทำ 33 ประตูในทุกรายการ ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าซีซั่นก่อนแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ เรอัล มาดริด ลดความสนใจในตัวเขาลงไปแต่อย่างใด และยังคงตื๊อจน "ปีศาจแดง" ใจอ่อนยอมรับข้อเสนอมูลค่า 80 ล้านปอนด์ในที่สุดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2009

ตอนค้าแข้งกับเรอัล มาดริด 

โรนัลโด้ ย้ายมาร่วมทีม "ราชันชุดขาว" อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค. 2009 หลังจากตกลงเซ็นสัญญากับทีมดังแดนกระทิงดุเป็นเวลา 6 ปี และเชื่อกันว่าเขาจะได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 13 ล้านยูโรต่อฤดูกาล พร้อมกันนั้นเรอัล มาดริด ก็ตั้งค่าการฉีกสัญญาไว้สูงถึง 1 พันล้านยูโร 

ในวันเปิดตัวซูเปอร์สตาร์เบอร์ 9 คนใหม่ของทีม ปรากฎว่ามีสาวกมาดริดิสต้า ไปรอต้อนรับที่ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว มากถึง 80,000 คน ทำลายสถิติที่แฟนบอลในเมืองนาโปลี เคยแห่ไปต้อนรับ ดีเอโก้ มาราโดน่า 75,000 คนเมื่อครั้งที่ย้ายจากบาร์เซโลน่า ไปเล่นในกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 1984 ปีกชาวโปรตุกีส ลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่เป็นครั้งแรกในเกมกระชับมิตรกับ แชมร็อค โรเวอร์ส ที่ประเทศไอร์แลนด์ ส่วน ในลีก โรนัลโด้ ลงสนามเป็นนัดแรกพบกับ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ในวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเขาทำประตูได้ด้วย

ขณะที่ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก โรนัลโด้ ก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมเช่นกันเมื่อเหมาคนเดียว 2 ประตูจากลูกฟรีคิกให้เรอัล มาดริด บุกไปถล่มเอฟซี ซูริค 5-2 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา แม้ว่าจะแบกรับความกดดันในฐานะนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก แต่ โรนัลโด้ ก็รับมือได้ดีและยังสร้างสถิติใหม่ให้กับต้นสังกัด ด้วยการเป็นผู้เล่นเรอัล มาดริด คนแรกที่ทำประตูได้ทั้ง 4 นัดในการลงสนาม 4 เกมแรกในลา ลีก้า หลังยิงให้ทีมเอาชนะบียาร์เรอัล  ดูเหมือนว่าการออกสตาร์ทของ โรนัลโด้ ในยูนิฟอร์มชุดขาวจะไปได้สวย แต่จะรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่นั้นก็ต้องติดตามกันต่อไป

 

ร่วมสนุกกับเกมสนุกๆ ที่ท้าทายและรอคุณอยู่ เพียงเริ่มต้นเดิมพัน sbobet กับ 12sbobet ง่าย สมัครขั้นต่ำเพียง 500 บาท ปลอดภัย การันตี100% สมัครวันนี้เพิ่มเครดิต 20% + คืนยอดเสีย 10% บริการ24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด